พระอินทร์

"เทวราชผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ผู้เป็นประมุขแห่งทวยเทพ"

ภาพจาก http://www.lertchaimaster.com/imageforum/wikipedia4.jpg

สวัสดีค่ะทุกคน ทุกคนอาจจะแปลกใจใช่ไหมล่ะคะว่าทำไมเรามีบล็อกใหม่ นั่นเป็นเพราะว่าเราตั้งใจอยากจะเขียนบล็อกนี้แยกมาต่างหากค่ะ

ซึ่งวันนี้เราไม่ได้จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์นะ แต่ถ้าใครสนใจหรือยังไม่ได้ติดตามอีกบล็อกของเรา ก็สามารถจิ้มๆที่ที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ 

⬇️⬇️⬇️

https://tassaneeyaseastudy.blogspot.com/

โดยเรื่องที่เราจะมานำเสนอเพื่อนๆวันนี้นั้น่าสนใจมากๆเลยค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับมหาเทพในอินเดีย ซึ่งจริงๆแล้วมหาเทพในอินเดียนั้นมีหลายพระองค์มาก ที่จะรู้จักกันก็คงจะเป็นพระศิวะ พระวิษณุและพระนารายณ์ แต่มีอยู่หนึ่งพระองค์ที่ทุกคนอาจจะคาดไม่ถึงว่าเป็นเป็นมหาเทพของอินเดียด้วยเหรอ! ซึ่งก็คือพระอินทร์นั่นเองค่ะ

พระอินทร์ เป็นเทวดาองค์สำคัญของศาสนาพราหมณ์ โดยเป็นประมุขแห่งทวยเทพ นั่นก็คือเทวดาทั้งหมด 33 องค์ และเป็นประธานเทวสภา มีอำนาจหน้าที่ปกครอง ควบคุม รักษา และบำรุงสวรรคโลกและมนุษย์โลก

ภาพจาก https://i.ytimg.com/vi/1WxcXpcdcjo/maxresdefault.jpg

♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️

ในยุคเริ่มแรกตามคัมภีร์ฤคเวท พระอินทร์เป็นประมุขแห่งทวยเทพ เป็นเจ้าแห่งสภาพภูมิอากาศ  กล่าวคือ เมื่อครั้งโบราณ พระอินทร์ถือเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอานุภาพสูงสุดในบรรดาเทพ พระองค์สามารถดลบันดาลให้เกิดฝนตกตามฤดูกาล บันดาลให้พืชพรรณงดงาม และบันดาลให้เกิดภัยทางธรรมชาติที่เป็นภัยร้ายแรงได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพายุ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ฝนตก น้ำท่วม ทั้งนี้ก็เพราะพระอินทร์มีวัชระหรือสายฟ้า เป็นศาสตราวุธคู่กาย วัชระเป็นศาสตาวุธที่มีอำนาจ ทรงพลังเป็นอย่างมาก ซึ่งอาวุธดังกล่าวสามารถสร้างสายฝน ฟ้าผ่า หรือฟ้าร้องตามที่ต้องการได้

ภาพจาก http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/05/Y7923008/Y7923008-8.jpg

♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️

พระอินทร์เป็นเทพที่จิตใจประเสริฐ มีอุปนิสัยชอบช่วยเหลือสรรพสัตว์ พระอินทร์จึงถือเป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่เหนือชีวิตของสรรพสัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย  พระองค์มีหน้าที่คอยคุ้มครองผู้ที่กระทำความดีเสมอ ปกป้อง ดูแลโลกให้พ้นจากสิ่งอันตรายเลวร้ายต่างๆ และยังเป็นผู้นำเหล่าเทพเจ้าให้ไปกำจัดอสูรร้ายที่ตั้งใจเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้แก่โลกมนุษย์ คัมภีร์ส่วนใหญ่กล่าวถึงวีรกรรมของพระอินทร์ในการปราบอสูรที่มีชื่อว่า วฤตระ (Vritra) และวีรกรรมในการอภิบาลจักรวาลนานัปการ

ภาพจาก http://image.dek-d.com/27/0442/1635/120998921

♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️

ลักษณะประจำตัว

สมัยฤคเวท พระอินทร์มีร่างกาย ผม เครา และเล็บเป็นสีทอง ในสมัยต่อมา พระอินทร์เริ่มมีหน้าตาและรูปร่างสวยขึ้น โดยมีร่างกายสีแดง และกลายเป็นสีเขียวแบบที่เราเห็นได้ตามภาพทั่วไป แต่ในบางครั้งผิวอาจจะเปลี่ยนเป็นสีทองจนถึงขาวนวล 

พระอินทร์มี1 หน้า 4 มือ โดยปกติในจิตรกรรมต่างๆมักปรากฏเพียง 2 มือ ซึ่งมือหนึ่งถือวชิราวุธ เพื่อใช้ปราบ พฤตาสูร หรือผีร้ายแห่งความแห้งแล้งนั่นเอง

ภาพจาก https://www.tumnandd.com/wp-content/uploads/phain.jpg

♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️

อาวุธประจำกายของพระอินทร์

• วชิราวุธ หรือสายฟ้า

ภาพจากhttp://muneephayak.lnwshop.com/product/25/วชิราวุธ-เนื้อนวะแก่ทองคำ

• พระขรรค์ 

ภาพจาก https://lh3.googleusercontent.com/gVJiI7J3SxNiLsv9p2CVgZhnc4_LYd2eiHWge8_3eSmPUC4IqwayTDJgdG7cMjf7pHYOfK8=s110

นอกจากนั้นยังมี

• ขอ
• ร่างแห
• ศรศักธนู

♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️

พระอินทร์มีพาหนะ คือ ช้างเอราวัณ 

ช้างเอราวัณ ในเรื่องรามายณะ และ ความเชื่อของศาสนาฮินดู  มีพาหนะเป็นช้าง 3 เชือก เชือกหนึ่งพระศิวะเป็นผู้ประทานให้ชื่อว่า เอราวัณ เชือกหนึ่งพระพรหมป็นผู้ประทานให้ชื่อว่า คีรีเมขล์ไตรดายุค และอีกเชือกหนึ่งพระวิษณุเป็นผู้ ประทานให้ชื่อว่า เอกทันต์ 

ช้างเอราวัณเป็นช้างที่มีพละกำลังมากที่สุดในหมู่ ช้างทั้ง 3 เชือก และเป็นที่โปรดปรานมากที่สุดของพระอินทร์ ที่ปกติเป็นเทวดาองค์หนึ่ง ซึ่งเมื่อพระอินทร์ประสงค์จะเดินทางไปที่ใด เทวดาเอราวัณจะกลายร่างเป็นช้างพาหนะ

ภาพจาก http://www.silpathai.net/page/42/

ภาพจาก http://img.painaidii.com/images/20111120_3_1321778490_806021.jpg

♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️

ลักษณะที่มักจะพบในงานศิลปะ ที่เห็นได้ชัดคือ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณสามเศียร และที่พระหัตถ์ถือวชิราวุธ

รูปแบบศิลปะ เช่น ◼️หน้าบันปราสาทวัดพู ทับหลังที่สวยงาม
ภาพแกะสลัก พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณสามเศียรเหนือราหู

ด้วยความที่ปราสาทวัดพูหันหน้าตรงไปทิศตะวันออก และทับหลังเป็นรูปพระอินทร์ก็มาจากความหมายว่า พระอินทร์ผู้เป็นเทพที่ดูแลโลกทางด้านทิศตะวันออก กำกับดูแลดินฟ้าอากาศ ทำให้โลกมีความชุ่มชื้น และได้ช้างเอราวัณเป็นพาหนะซึ่งพระอิศวรประทานให้ ช้างเอราวัณจึงมีหน้าที่ดูดน้ำจากโลกขึ้นไปบนสวรรค์ ให้พระอินทร์บันดาลให้เกิดน้ำจากฟ้าตกลงสู่โลก ก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์

ส่วนที่พระอินทร์ทรงช้างเหนือราหู ก็เพราะราหูไปรังแกพญาครุฑ

พญาครุฑจึงหนีไปพึ่งพระอินทร์ ระหว่างนั้นพระราหูซึ่งกำลังไล่ล่าพญาครุฑ บังเอิญเหลือบไปเห็นน้ำอมฤต ด้วยความกระหายจึงยกขึ้นดื่ม ฝ่ายพระอินทร์เห็นพระราหูทำล่วงเกิน ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง บันดาลโทสะ จึงขว้างจักรเพชรเข้าใส่ร่างพระราหู ร่างขาดเป็น 2 ท่อน แต่ไม่ตายเพราะได้น้ำอมฤตมาก่อนนั้น

ภาพจาก https://www.bloggang.com/data/ktip13/picture/1265908427.jpg

◼️ไพชยนต์ปราสาท หรือ ศาลาพระอินทร์ ในบริเวณเขตพุทธาวาสแห่งอนัตตจักรวาลแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานแห่งองค์อมรินทราธิราชเจ้า ปางประทานพรหลั่งน้ำพระมหาสังข์

ภาพจาก https://scontent.fbkk14-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/26239950_1514370868670940_5642881757038805219_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_ht=scontent.fbkk14-1.fna&oh=6a315081d1d391ca51ae6bc7d98ad23d&oe=5C6705A8

♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️♦️

นอกจากพระอิทร์ท่านจะประทับอยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว พระองค์ยังมีเมียถึงสี่นางเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นนางสุชาดา นางสุจิตรา นางสุธรรมา และนางสุนันทา ซึ่งทั้งสี่นางความสวยตามตำนานก็ว่ากินกันไม่ลงเลยค่ะ

อาจจะกล่าวได้ว่าพระอินทร์ก็เพอร์เฟ็คไม่ต่างกับมหาเทพคนอื่นๆเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นรูปกาย อิทธิฤทธิ์ที่มีอานุภาพสูงสุดในบรรดาเทวดาทั้งหลาย เรียกฟ้าเรียกฝน ปราบอสูรร้ายแห่งความแห้งแล้งที่มาสร้างความเดือดร้อนให้กับโลกมนุษย์ด้วย ซึ่งถือว่าได้ว่าพระองค์นั้นมีความสำคัญทั้งมนุษย์และสวรรค์โลกจริงๆค่ะ

*แนะนำสำหรับคนที่ดูในมือถือแล้วสถิติไม่ปรากฏให้กดดูเวอร์ชันสำหรับเว็บที่อยู่ด้านล่างนะคะ*

บรรณานุกรม

Journy of couple.(2553).ปราสาทวัดพู จำปาหอมที่ลาวใต้.18 พฤศจิกายน 2561.จาก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ktip13&month=11-02-2010&group=10&gblog=9

วิกิพีเดีย.(2561).พระอินทร์.18 พฤศจิกายน 2561.จาก https://th.wikipedia.org/wiki/พระอินทร์#ศาสนาฮินดู

TumnanDD.(ม.ป.ป.).พระอินทร์ ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์.18 พฤศจิกายน 2561.จาก https://www.tumnandd.com/พระอินทร์-ผู้เป็นใหญ่ใน/

ณภัทรสพล ใจดี.(2011).ช้างเอราวัณ.18 พฤศจิกายน 2561.จาก https://sites.google.com/site/casthemix/kickrrm1/kar-peliynpaelng-khxng-sangkhm/chang-xerawan

วิชาภรณ์ แสงมณี.(2014).ช้างที่มีมงคล 7 ประการ.18 พฤศจิกายน 2561.จาก http://www.silpathai.net/page/42/